เปิดไพ่ บาคาร่า ถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับขั้นสุดยอด ที่เซียนบาคาร่ามักนิยมใช้ เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยใช้ในการคาดคะเนว่าในตาถัดไปมีโอกาสออกไพ่อะไรมากที่สุด และในวันนี้เราจะมาแนะนำ วิธีอ่านเค้าไพ่บาคาร่า เทคนิคลับของเซียนไพ่ตัวจริง พร้อมทั้งแนะนำแนวทางในการนำไปใช้อย่างละเอียดในบทความนี้
เค้าไพ่บาคาร่า 7 รูปแบบ จากตำราเซียน
สำหรับวิธีการอ่าน เปิดไพ่บาคาร่า หรือการดูลายไพ่ ถือว่าเป็นแกนหลักสำคัญต่อการเล่นไพ่ชนิดนี้เป็นอย่างมาก เป็นหนึ่งในเคล็ดลับวิชาบาคาร่าที่นักเล่นไพ่ต้องรู้ โดย เค้าไพ่ นั้น คือ สถิติในการออกไพ่ก่อนหน้า ซึ่งพอคนไทยนำมาเรียกก็ออกจะดูแปลกๆอยู่บ้าง ไม่เหมือนกับทางต่างประเทศซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเรียกชื่อเค้าไพ่บาคาร่าแตกต่างกัน
โดยข้อดีของการแทงบาคาร่าผ่านเว็บ ptgame24 คือ ท่านจะดูสถิติของไพ่รอบก่อนๆอย่างละเอียด เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการเดิมพันในรอบถัดไป โดยฝั่งแบงค์เกอร์ ก็คือ B ส่วนฝั่งเพลย์เยอร์ นั้นคือ P เอาละทีนี้เรามาลองดูชื่อเรียกเค้าไพ่ 7 รูปแบบกันในหัวข้อต่อไป
เปิดไพ่ เค้าไพ่บาคาร่า มังกร
เค้าไพ่มังกร คือ เค้าไพ่ที่มีวงกลมสีเดียวกันออกติดกันติดซ้ำๆยาวไล่ลงมา ที่แสดงบนตารางสถิติ ต่างประเทศเรียกว่า Follow the Dragon เป็นเค้าไพ่ที่สังเกตได้ง่ายที่สุด เพราะว่ามังกร ก็คือการออกไพ่ในลักษณะที่ แบงค์เกอร์ สีแดง หรือเพลย์เยอร์ สีน้ำเงิน ชนะติดต่อกัน อย่างน้อย 4-5 ครั้ง การใช้สูตรนี้ก็คือแทงตามไปเรื่อยๆไปจนกว่าหน้าไพ่จะเปลี่ยน เช่น B-B-B-B ไม้ถัดไปให้เลือก B
โอกาสในการทำกำไรจากการแทงที่ฝั่งเดิมที่ชนะติดกันซ้ำๆหลายรอบ ด้วย เค้าไพ่มังกร / สูตรแทงหางมังกร ก็ถือว่าให้กำไรงามมากมายเลยทีเดียว หากคุณเป็นคนที่เล่นไพ่บาคาร่าบ่อยๆก็คงจะคุ้นชินกับเค้าไพ่แบบนี้กันมาบ้าง เพราะเป็นลักษณะของเค้าไพ่ที่มีชื่อเสียง ในหมู่นักเล่นไพ่ด้วยกัน เพราะรูปแบบที่สังเกตได้ง่าย ทำความเข้าใจได้ง่ายกว่าเค้าไพ่ชนิดอื่น กับผลลัพธ์ที่ออกฝั่งเดิมซ้ำๆกันในหลายๆรอบ ทำให้คนที่เล่นเกมนี้บ่อยๆ หรือแม้แต่นักเล่นมือใหม่ก็สามารถสังเกตได้ง่ายๆ เรามาดูแนวทางในการเล่นเค้าไพ่ชนิดนี้กัน ซึ่งสามารถหาคำตอบได้จากบทความต่อไปที่ด้านล่างนี้
ลักษณะ เค้าไพ่หางมังกร
เปิดไพ่ เค้าไพ่มังกร , สูตรบาคาร่า แทงหางมังกร มีลักษณะที่มองออกได้โดยง่ายจากตารางผลลัพธ์ของโต๊ะบาคาร่าที่เราเลือกเล่น ซึ่งจะมีรูปแบบของการออกที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งติดกันซ้ำๆที่ฝั่งเดียวมากกว่า 5 ตาขึ้นไป เช่น หางมังกรฝั่งแบงค์เกอร์ ก็จะมีรูปแบบเป็น BBBBB หรือ หางมังกรฝั่งเพลย์เยอร์ ก็จะมีรูปแบบเป็น PPPPP ทั้งนี้อาจมีการออกซ้ำกันมากกว่า 5 รอบได้เช่นกัน ยิ่งหางมังกรออกที่ฝั่งหนึ่งฝั่งใดติดกันมากเท่าไร เค้าไพ่หางมังกรจะยิ่งเห็นชัดมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องง่ายมากที่เราจะนำมาใช้ในการคาดเดาผลลัพธ์จากสูตรนี้ได้อย่างแม่นยำ เราขอแนะนำว่าในช่วง 15 ตาแรกของเกม หางมังกร จะไม่แสดงออกมาให้เห็นบ่อยนัก ต่างจากในช่วงตาท้ายๆ ซึ่งมักจะออกบ่อยมากกว่า บางครั้ง อาจออก สูตรเค้าไพ่มังกรมากถึง 10-13 ตาเลยทีเดียว
เค้าไพ่หางมังกร
การเอาชนะเกมไพ่บาคาร่า ด้วยเค้าไพ่มังกร นั้นมีหลักการง่ายๆ ที่ทำให้คุณสามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้ เนื่องจากการออกผลแบบเรียงตัวกันในฝั่งเดียวฝั่งใดฝั่งหนึ่งเป็นจำนวนครั้งหลายๆรอบ จะช่วยให้เราคาดเดาได้ว่าในรอบถัดไปจะมีผลลัพธ์ออกที่ฝั่งใด นี่จึงเหตุผลว่าทำไมเค้าไพ่หางมังกรจึงเป็นโอกาสทำกำไรให้กำคุณในการเล่นไพ่บาคาร่า
รูปแบบของการแทงสูตร เค้าไพ่มังกร นั้นทำได้ง่าย คือรอให้สถิติบาคาร่าออกมาที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เป็นหางมังกรยาวลงมา ก็ให้แทงเดิมพันไปที่ฝั่งเดียวกันนั้นไปกับหางมังกรได้เลย ตัวอย่างเช่น BBBBBB = สูตรให้แทง B หรือ PPPPPP = สูตรให้แทง P เป็นต้น
เนื่องจากการเล่นสูตร เค้าไพ่มังกรเป็นการเดิมพันตามตรรกะความคิดที่เรียบง่าย เราอยากให้คุณลองตามดูสถิติว่าเมื่อผลลัพธ์ออกฝั่งใดฝั่งหนึ่งเป็นฝั่งเดียวหลายๆรอบติดกัน แน่นอนว่าผลลัพธ์นั้นย่อมมีโอกาสที่จะกลับตัวได้ง่าย หรือสูงกว่าลักษณะทั่วไป เช่น การสลับไขว้ สลับเป็นรูปแบบปิงปอง ซึ่งเดาทางได้ยาก ดังนั้นหากเจอไพ่รูปแบบหางมังกรเข้าแล้ว ก็อยากให้คุณลองเดิมพันด้วยเทคนิคดังกล่าวดูสักครั้ง
เปิดไพ่ เค้าไพ่ปิงปอง บาคาร่า
เค้าไพ่ปิงปอง ใช้เรียกเมื่อสถิติการออกไพ่สลับกันแพ้ชนะไปมาระหว่าง แบงค์เกอร์ กับ เพลย์เยอร์ เค้าไพ่ PBPB ลักษณะเหมือนกับการตีปิงปอง การเล่นโดยใช้สูตรนี้ให้แทงฝ่ายตรงข้าม เช่นถ้าสถิติออก P-B-P-B ตาต่อไปก็ต้องเลือกแทง P
สูตรแทง บาคาร่า สลับนี้ ช่วยให้มีโอกาสให้เราทำกำไรได้อย่างมาก มากถึง 87.5% ของทั้งขอนไพ่ Baccarat ทั้งหมด ส่วนใหญ่สถิติจะออกสลับกันไปมาระหว่าง ฝั่งเพลย์เยอร์ กับ แบงค์เกอร์ ติดกันไม่เกิน 3 ครั้ง แต่การสลับผลชนะไปมานั้นอาจแตกเป็นรูปแบบเค้าไพ่ปิงปอง สลับคู่ แบบกระดูก หรือแบบใดก็ได้ที่ไม่ใช่เค้าไพ่มังกร ที่ต้องชนะติดกันยาวเกิน 5 ตา
เราสามารถสังเกตรูปแบบการออกของไพ่ได้จากตารางสถิติที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอ รูปแบบของเค้าไพ่จะมีลักษณะสลับกันไปมาเหมือนกับการ ตีปิงปอง นั่นเอง เค้าไพ่นี้จึงได้ถูกเรียกว่า เค้าไพ่ปิงปอง ซึ่งการสลับนั้นจะเริ่มจาก P ( Player ) ก่อนหรือ B ( Banker ) ก่อนก็ได้
ยกตัวอย่างเช่น
B, P, B, P หรือ P, B, P, B การสลับให้เกิด เค้าไพ่ปิงปอง หรือเค้าไพ่ PBPB อย่างน้อยต้องสลับกันให้เห็นในตารางซะก่อน 2 คู่ หรือมากกว่า 2 คู่ เป็นต้นไป และถ้าหากสลับเพียงคู่เดียวอย่างเช่น P, B หรือ B, P ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นเค้าไพ่ ปิงปอง
สำหรับใครที่กำลังงงอยู่ว่าทำไมเราจึงต้องให้ความสำคัญกับ เปิดไพ่ บาคาร่า นั่นก็เพราะว่าการเล่น บาคาร่า ไม่ใช่เรื่องของการเสี่ยงโชค เหมือนกับการซื้อหวย ซึ่งโอกาสชนะมีสูงถึง 50% และเราสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยการอ่านเค้าไพ่บาคาร่าให้เป็นหลายๆแบบ
ดังนั้นแล้วเค้าไพ่จึงเป็นตัวช่วย ที่ทำให้เราเอาชนะบาคาร่าได้ โดยอ้างอิงจากหลักการของสถิติ และความน่าจะเป็นในวิชาคณิตศาสตร์ การมองเค้าไพ่ให้ออกทำให้เราคาดเดาได้ง่ายว่าตาต่อไปนั้นจะออกไพ่อะไร ในเกมไพ่บาคาร่ามีตารางเค้าไพ่หลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นจะถนัดรูปแบบใด ไม่ว่าจะเป็น ตารางไข่ปลา, ตารางแบบซาลาเปา, ตารางไม้ขีด เป็นต้น ในบทความนี้เราจะมาแนะนำว่า ทำไมนักพนันส่วนใหญ่จึงเลือกใช้เค้าไพ่ PBPB หรือ เค้าไพ่ปิงปอง นำมาเป็นตัวช่วยในการสร้างกำไรในครั้งนี้
หลักความน่าจะเป็นในการ เปิดไพ่ เค้าไพ่ปิงปอง
สถิติของการออกเค้าไพ่ในลักษณะที่ออกซ้ำกันยาวๆ ถือว่าเป็นเค้าไพ่ที่มีลักษณะในการออกที่น้อยครั้ง ที่ผลจะออกเป็นแบบเดิมในตาถัดไป ดังนั้นมีเปอร์เซ็นต์มากเลยทีเดียวที่ตาถัดไปผลจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม
เปิดไพ่ ความน่าจะเป็น เค้าไพ่ปิงปอง
จากภาพตารางด้านบน จะเห็นได้เลยว่าการที่ผลลัพธ์จะออกติดกัน 5 ตาขึ้นไป ถือว่าเป็นไปได้น้อยมาก ซึ่งอยู่ที่ 5.47% และหากพูดกันง่ายๆ ก็คือหากเล่นด้วยจำนวน 100 ตา โอกาสที่จะเกิดเค้าไพ่มังกรมีเพียง 5 ตาเท่านั้น ดังนั้นหากโต๊ะไหนที่พบกับเค้าไพ่มังกรไปแล้วในตาแรกๆ และเราทำกำไรได้ไปแล้ว ก็ขอแนะนำมองหาโต๊ะใหม่ทันที เพราะโอกาสที่จะเกิดเค้าไพ่มังกรอีกรอบ แทบจะต่ำกว่า 0%
ในเทคนิคนี้เราจะเน้นไปที่เค้าไพ่ปิงปอง ซึ่งโอกาสจะออกบ่อยกว่ามาก จะออกติดกันเพียงไม่เกิน 2 ตาเท่านั้น แปลว่ามีโอกาสมากถึง 75% แปลว่าหากเล่น 100 ครั้ง ก็มีโอกาสออกได้มากถึง 75 ครั้ง เราลองมาขยายความเกี่ยวกับการออกติดกันไม่เกิน 2 ตา จะสามารถแบ่งออกมาได้ดังนี้
ลักษณะออกแบบสลับไขว้กัน แบบเค้าไพ่ปิงปองอัตราอยู่ที่ 50% เท่ากับ การเล่นจำนวน 100 ตา จะมีเค้าไพ่ปิงปองออกสลับกันได้ถึงสูงถึง 50 ตา
ลักษณะการออกติดกันสองตาอยู่ที่ 25% เท่ากับ การเล่นจำนวน 100 ตา จะมีเค้าไพ่ปิงปองสลับกันได้สูงถึง 25 ตา
เมื่อมั่นใจกับการตรวจสอบเค้าไพ่กันแล้ว ก็มาถึงคราวการนำไปใช้เดิมพันกันบ้าง โดยจะต้องทำตามขั้นตอน ต่อไปนี้
กฎข้อสำคัญที่ควรจำ คือ เปิดไพ่ เค้าไพ่บาคาร่า มักจะออกปิงปองและออกคู่ ให้หาห้องที่มีเค้าไพ่ในลักษณ์นี้เท่านั้น
เมื่อหาห้องได้แล้ว ให้ลงเดิมพันสลับไปมาระหว่างฝั่ง Banker B และ Player P ดังนี้ B P B P B P B P
สิ่งสำคัญคือหากทำกำไรได้ถึง 5 รอบแล้วให้หยุดเล่นทันที
หากลงเดิมพันแก้ ในตาถัดไปให้ลงเงินเดิมพันเพิ่มเป็นสองเท่า ตามจำนวนเงินที่ลงไว้ เช่น เดิมพัน 20 บาท แล้วแพ้ ตาถัดไปก็ให้ลง 40 บาท
และในกรณีที่แพ้ติดกันเป็นตาที่สอง ก็ให้ลงไป 2 เท่าอีก และให้หยุดในตาถัดไปเพื่อรอจังหวะเข้าเดิมพันอีกครั้ง
หากเดิมพันแพ้ติดกันหลายๆครั้ง ให้หาห้องใหม่ และเริ่มต้น step การลงเดิมพันใหม่ตั้งแต่ต้น
หลักการแทงบาคาร่า ไพ่ปิงปอง ให้ถูกต้องและแม่นยำ
สูตรแทง เค้าไพ่ปิงปอง จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง และเงื่อนไขในการใช้สูตรนี้มีอะไรบ้าง
1. ก่อนอื่นให้หาห้องที่มีเค้าไพ่ออกสลับกัน และรอจังหวะลงเดิมพันที่เหมาะสม
ซึ่งเค้าไพ่จะมีลักษณะ ดังนี้
ต้องเลือกห้องที่มีเค้าไพ่สลับ 4 ครั้ง = P B P B หรือ B P B P
หรือ เลือกห้องที่มีเค้าไพ่สลับ 5 ครั้ง = P B P B P หรือ B P B P B ก็ได้เช่นกัน
หรือ จะเลือกห้องที่มีเค้าไพ่สลับมากกว่า 5 ครั้ง ก็ได้ ยิ่งสลับกันเยอะก็ยิ่งดี
2. ลงเดิมพันที่สถิติล่าสุด
ในรอบถัดมา ให้เดิมพันตามผลล่าสุด ของรูปแบบสลับที่ออกมาล่าสุด
เช่นถ้า เค้าไพ่ล่าสุด เท่ากับ B P B P (B) ดังนั้น ตาถัดไปให้เดิมพันแทงฝั่ง ผู้เล่น (B)
โต๊ะบาคาร่า
ข้อสำคัญที่ควรจำ คือ หากผลเค้าไพ่ในห้องนั้นๆ สลับกันมากหรือยาวเท่าไร การแทงเดิมพันตามสีตัวสุดท้ายก็จะยิ่งแม่นมากขึ้นเท่าตัว เหตุผลของสูตรนี้ก็เพราะว่ามีโอกาสในการเป็นไปได้ที่น้อยมากๆ ที่จะออกสลับติดกันไปเรื่อยๆ ยาวๆ โดยที่ไม่มีสีเดียวกันติดกัน หรือเรียกอีกอย่างว่า ผลลัพธ์ไม่ซ้ำเดิม หากยิ่งสลับหลายตา ความเป็นไปได้ยิ่งน้อยมากๆ ดังนั้นแล้วนี่จึงเป็นหลักการทำงานของสูตรนี้
ตัวอย่าง การใช้สูตรบาคาร่า แทงแบบปิงปอง เพื่อช่วยให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น เรามาดู 2 ตัวอย่างนี้กัน
กรณีที่เป็นเค้าไพ่แบบสลับ 4 ผล (เค้าไพ่ปิงปอง)
หากผู้เล่นมองหาห้องที่มีผลเค้าไพ่ล่าสุด เท่ากับ B P B (P) ในตาถัดไป ต้องแทงที่ฝั่ง P หรือฝั่งผู้เล่น Player นั่นเอง จะเป็นการแทงตามผลลัพธ์ที่ 4 ในตาก่อนหน้า
กรณีที่เป็นเค้าไพ่แบบสลับ 5 ผล
เมื่อหาห้องจนเจอห้องที่มีผลเค้าไพ่ล่าสุด เท่ากับ B P B P (B) ในตาถัดไป จะต้องลองเดิมพันที่ฝั่ง B หรือฝั่งเจ้ามือ Banker จะเป็นการแทงตาม ผลลัพธ์ที่ 5 ในตาก่อนหน้า