ประวัติ ปอล ป็อกบา ซูเปอร์สตาร์ ค่าตัวแพงสุดในเกาะอังกฤษ

ป็อกบา

ปอล ป็อกบา ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 1993 ที่ ลาญี-ซูร์-มาร์น ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัวชาวกินี โดยคุณพ่อฟัสซู อองตวน, คุณแม่ยีโอ รวมถึงพี่ชายฝาแฝดของเขา ทั้ง ฟลอร็องแต็ง และ มัทธีอัส ป็อกบา เคยอาศัยอยู่ที่ประเทศกินี

ก่อนที่จะย้ายไปตั้งถิ่นฐานที่ประเทศฝรั่งเศส โดยลูกชายทั้ง 3 คน ของครอบครัวป็อกบา ต่างเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งท้ายที่สุด พี่ชายทั้ง 2 ของเขา ได้ลงเล่นให้กับ ทีมชาติกินี ขณะที่ ปอล ได้รับใช้ ทีมชาติฝรั่งเศส

ในปี 1999 ปอล เริ่มต้นเส้นทางสายลูกหนัง ตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ โดยเขาได้เข้าร่วมทีม รัวซี-อ็อง-บรี สโมสรในฝรั่งเศส ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเกิด โดย ปอล เล่นให้ต้นสังกัดแรกอยู่ 7 ปี ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทัพ ตอร์ซี่ ในปี 2006 ซึ่งเขาได้ถูกเลือกให้เป็นกัปตันทีมชุดอายุไม่เกิน 13 ปีของสโมสร และ 1 ปีให้หลัง ป็อกบาในวัย 14 ปี จึงได้ย้ายไปร่วมทีม เลอ อาฟวร์ เป็นที่ที่เขาโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 2 ปีที่สโมสรแห่งนี้ จนไปเข้าตาทีมดังหลายทีมในยุโรป

ในเดือนตุลาคม 2009 ป็อกบาได้ย้ายร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ โดยได้ลงเล่นให้กับทีมชุด U18 เป็นเกมแรก ในวันที่ 10 ตุลาคม 2009 ในแมตช์ที่ ปีศาจแดง เอาชนะ ครูว์ อเล็กซานดร้า 2-1 ซึ่งในซีซั่นแรกที่อังกฤษ เขาได้ลงสนามไป 21 นัด โดยยิงไป 7 ประตู

ปอล ป็อกบา

ต่อมา ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2011 ป็อกบาได้เป็นหนึ่งในสี่ดาวรุ่ง ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ โดยเขามีรายชื่อในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 5 กับ คราวลีย์ ทาวน์ ซึ่ง ปอล ได้รับเสื้อหมายเลข 42 อย่างไรก็ตาม ดาวเตะเลือดน้ำหอม ยังคงเล่นในทีม U18 ก่อนที่จะพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 2010/11 ร่วมกับเพื่อนซี้อย่าง เจสซี่ ลินการ์ด

จากนั้น เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2012 เขาได้โอกาสลงสนามในศึก พรีเมียร์ลีก ให้กับ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรก ในฐานะตัวสำรอง โดยลงเล่นแทนที่ของ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ หรือ ชิชาริโต้ ในนาที 72 ในเกมที่พวกเขาเปิดบ้านเอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ 2-0 ทว่าสุดท้ายในฤดูกาลดังกล่าว ป็อกบาได้รับโอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ไปเพียง 7 เกมเท่านั้น โดยแบ่งเป็นพรีเมียร์ลีก 3 นัด, ลีก คัพ 3 นัด และ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 1 นัด

ด้วยโอกาสลงสนามที่ไม่มากนักในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทำให้ป็อกบา ในวัย 19 ปี เลือกเดินออกจากโรงละครแห่งความฝัน หลังจากที่เขาตัดสินใจไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีม แล้วก็เป็น “ม้าลาย” ยูเวนตุส ยอดทีมแห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา ที่ได้แข้งดาวรุ่งอนาคตไกล ไปร่วมทัพแบบฟรีๆ ในเดือนกรกฎาคม 2012 โดยเซ็นสัญญายาว 4 ปี

ป็อกบา กำลังหลักของยูเว่ เส้นทางแห่งแสงชัย

ป็อกบา ได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นกำลังหลักของ ยูเว่ ส่งผลให้ฟอร์มการเล่นและพรสวรรค์ของเขา พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝีเท้าของเขาเริ่มเฉิดฉาย จนกลายเป็นที่ยอมรับ และมีชื่อเสียงไปทั่วเวทียุโรป โดยเขาสามารถพา ยอดทีมแห่งเมืองตูริน คว้า สคูเด็ตโต้ หรือแชมป์

กัลโช่ เซเรีย อา ได้ 4 สมัยซ้อน ในช่วงปี 2012-2016 อีกทั้งยังคว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย ได้ 2 สมัย รวมถึงพาทีมเข้ารอบชิง ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนที่จะคว้ารองแชมป์ หลังพ่ายให้กับ บาร์เซโลน่า 1-3 ในซีซั่น 2014/15

ป็อกบา เยือนถิ่นเก่า ถามหาวันวาน

วันที่ 8 สิงหาคม 2016 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ตัดสินใจกระชากตัว ปอล ป็อกบา กลับไปยังถิ่นเก่าอีกครั้ง ด้วยค่าตัวสูงที่สุดเป็นสถิติโลก ณ ขณะนั้น ที่ 89 ล้านปอนด์ ทำลายสถิติเดิมของ แกเร็ธ เบล ที่ เรอัล มาดริด ทุ่มซื้อจาก สเปอร์ส ด้วยมูลค่า 85 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2013

ซึ่งแม้ว่าตอนนี้สถิติโลก จะถูก เนย์มาร์ ทำลายลงไปแล้ว หลัง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คว้าตัวเขาไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสูงถึง 222 ล้านยูโร หรือราว 198 ล้านปอนด์ในปีต่อมา แต่ทว่าป็อกบา ก็ยังคงเป็นเป็นแข้งที่มีค่าตัวสูงที่สุดของเกาะอังกฤษ มาจนถึงทุกวันนี้

ป็อกบา กลับมายังเมืองแมนเชสเตอร์ ในซีซั่นเดียวกับที่ โจเซ่ มูรินโญ่ เข้ารับงานกุนซือที่นั่นพอดี โดยดาวเตะฝรั่งเศสเข้ามาเป็นกำลังสำคัญของปีศาจแดงทันที ก่อนที่เขาจะสามารถพาทีมคว้าแชมป์ ลีก คัพ และ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ได้

ตั้งแต่ปีแรกที่กลับมา ทว่าต่อมา ผลงานของเขาก็เริ่มไม่สม่ำเสมอ รวมถึงยังมีอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังตกเป็นข่าวว่า เขามีปัญหาไม่ลงรอยกับ มูรินโญ่ ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยชื่นชอบในทัศนคติของเจ้าตัว นอกจากนั้น เขายังถูกแฟนบอลบางกลุ่มโจมตีว่า ไม่ทุ่มเทให้ทีมเท่าที่ควร

จนถึงเดือนธันวาคม 2018 เฮดโค้ชชาวโปรตุกีส ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังพาทีมทำผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจ ก่อนที่ทีมจะแต่งตั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามารับหน้าที่แทน โดยเรื่องดังกล่าว น่าจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ป็อกบา กลับมาเล่นฟุตบอลอย่างมีความสุข ซึ่งนั่นทำให้เขากลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งในสีเสื้อของ ปีศาจแดง ก่อนจะมาแผ่วปลายในช่วงท้ายซีซั่น

อย่างไรก็ตาม อนาคตของสตาร์วัย 27 ปี กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง ในช่วงซัมเมอร์ 2019 เมื่อมีกระแสข่าวว่า เขาต้องการย้ายออกจากทีม แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ยังคงอยู่กับทีมต่อไป ก่อนที่จะมาได้รับบาดเจ็บในช่วงต้นฤดูกาล 2019/20 จนต้องพักไปยาวหลายเดือน

กระทั่ง ศึกลูกหนังของอังกฤษ กลับมาแข่งขันอีกครั้ง ในเดือนมิถุนายน 2020 หลังต้องหยุดพักไป เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ป็อกบาจึงได้กลับมาลงเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมคนใหม่ อย่าง บรูโน่ แฟร์นานเดส ที่เข้ามายกระดับการเล่นของทีม จนทำให้ทีมคว้าอันดับ 3 ในลีกได้สำเร็จ

ป็อกบา

ฟอร์มตก เชื้อโควิด -19 ทำพิษ

ฤดูกาล 2020/21 ป็อกบาติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงก่อนออกสตาร์ทซีซั่น และเมื่อหายกลับมา เขาก็ยังโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนัก จนสุดท้ายต้องตกเป็นตัวสำรอง หลังจากมิดฟิลด์คนอื่นๆ ในทีม ทำผลงานได้ดีกว่า จน มิโน ไรโอล่า เอเย่นต์ส่วนตัวของป็อกบา ได้ออกมากล่าวผ่านสื่อว่า “เวลาของป็อกบา กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้หมดลงแล้ว

นักเตะในความดูแลของผม ไม่มีความสุขในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดแล้ว” ท่ามกลางข่าวที่เขาถูกเชื่อมโยงกับ ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด สองทีมดัง มาอย่างยาวนาน ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับสาวก เร้ด อาร์มี่ เป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าวป็อกบา ไม่ได้ออกมาแสดงท่าทีอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขายังคงมุ่งมั่นกับการทำผลงานในสนาม จนสามารถกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดี และช่วยทีมได้เป็นอย่างมากในหลายๆ นัด จนกระทั่งล่าสุด เขากลายเป็นคนยิงประตูชัย ในเกมที่ แมนยู เฉือนชนะ เบิร์นลีย์ 1-0 ซึ่งส่งผลให้ ปีศาจแดง ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้

ทว่าสุดท้ายแล้ว เราก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่า บทสรุปของป็อกบากับ ปีศาจแดง จะลงเอยอย่างไร เขาจะเลือกอยู่กับทีมต่อไป หรือว่าจะย้ายออกจากทีม และถ้าเป็นอย่างหลัง ที่หมายถัดไปของเขาจะเป็นที่ใดกันแน่

ผลงานทีมชาติฝรั่งเศส

ป็อกบารับใช้ ทีมชาติฝรั่งเศส มาแทบจะครบทุกรุ่น ในสมัยเป็นเยาวชน เขาพาทีมตราไก่ ชุด U20 คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในช่วงกลางปี 2013 หลังจากที่ได้เปิดตัวกับทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก

ในศึก ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2013 ด้วยวัย 20 ปี 7 วัน ในยุคของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เกมที่ ฝรั่งเศส เอาชนะ จอร์เจีย 3-1

หลังจากนั้นป็อกบา ก็พาทีมตราไก่ชุดใหญ่ ผ่านเข้าไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก ที่ประเทศบราซิล และทะลุไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนจะพ่ายให้กับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี แชมป์โลกในครั้งนั้น 0-1

จากนั้นในศึก ยูโร 2016 ที่พวกเขารับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ป็อกบาและฝรั่งเศส สามารถผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้สำเร็จ โดยไปพบกับ โปรตุเกส เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2016 ก่อนที่สุดท้ายแล้ว พวกเขาจะอกหักได้เพียงรองแชมป์ หลังพ่ายในช่วงต่อเวลาพิเศษ 0-1

อย่างไรก็ตาม ทัวร์นาเม้นต์ที่เขารอคอย และจุดสูงสุดของการรับใช้ชาติของ ป็อกบาก็มาถึงในปี 2018 เมื่อพวกเขาสามารถเถลิงบังลังก์แชมป์ ครองความยิ่งใหญ่ในวงการลูกหนังโลกได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ในศึก ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย

โดยการแข่งขันครั้งนี้ ฝรั่งเศส ฝ่าด่านสุดหินในรอบน็อคเอาท์ ทั้ง อาร์เจนติน่า, อุรุกวัย และ เบลเยียม ก่อนที่นัดชิงชนะเลิศ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับ โครเอเชีย ซึ่งสุดท้ายแล้วเป็น ฝรั่งเศส ที่เอาชนะไป 4-2 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกไปครองได้สำเร็จ โดยนัดนั้นป็อกบา เป็นผู้ยิงประตูที่สามให้กับทีมด้วย

จวบจนถึงปัจจุบัน ป็อกบายังคงเป็นกำลังหลักของ ฝรั่งเศส โดยเขาลงเล่นให้ทีมชาติไปแล้วไม่น้อยกว่า 75 นัด ยิงได้ 7 ประตู กับอีก 10 แอสซิสต์
sexybaccarat

สมัคร บาคาร่า